Gigabit 10/100/1000
Gigabit Fiber Optic Media Converter (เครื่องแปลงสื่อใยแก้วนำแสงกิกะบิต) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในเครือข่ายเพื่อแปลงสัญญาณเครือข่ายระหว่างอินเตอร์เฟสที่ใช้งานด้วยเทคโนโลยีใยแก้วนำแสงและอินเตอร์เฟสที่ใช้งานด้วยเทคโนโลยี Ethernet ที่มีความเร็ว 10/100/1000 Mbps หรือ Gigabit Ethernet โดยใช้ใยแก้วนำแสงเป็นสื่อส่งสัญญาณข้อมูลแทนสาย UTP (Unshielded Twisted Pair) ที่ใช้ใน Ethernet.
ความสำคัญของ Gigabit Fiber Optic Media Converter
Gigabit Fiber Optic Media Converter มีความสำคัญสำหรับเครือข่ายที่ต้องการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายที่ใช้งานเทคโนโลยีใยแก้วนำแสงกับเครือข่าย Ethernet ที่ใช้งานด้วยสาย UTP โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องการเชื่อมต่อระยะไกล หรือสัญญาณที่ต้องการความเร็วสูง ทั้งนี้เพื่อให้ความสามารถในการรองรับการส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรในเครือข่าย
วิธีการทำงานของ Gigabit Fiber Optic Media Converter
Gigabit Fiber Optic Media Converter ทำงานโดยการแปลงสัญญาณระหว่างเครือข่าย Ethernet ที่ใช้งานด้วยสาย UTP และเครือข่ายใยแก้วนำแสง โดยใช้ตัวแปลงสัญญาณให้เหมาะสมกับทั้งสองเทคโนโลยี อุปกรณ์นี้มักจะมีพอร์ต Ethernet ที่ใช้เสียบสาย UTP และพอร์ตใยแก้วนำแสงที่ใช้เสียบสายสัญญาณไฟเบอร์ออปติกในระบบที่ต้องการ
เมื่อ Gigabit Fiber Optic Media Converter ได้รับสัญญาณจากอินเตอร์เฟส Ethernet ที่ใช้งานด้วยสาย UTP ก็จะทำการแปลงสัญญาณให้เป็นสัญญาณแสงและส่งต่อไปยังอินเตอร์เฟสใยแก้วนำแสง ซึ่งก็จะแปลงสัญญาณกลับมาเป็นสัญญาณ Ethernet ที่เหมาะสมกับอีกพอร์ตที่ใช้งานในระบบเครือข่าย Ethernet โดยอาจใช้เทคโนโลยีแบบ Bridge หรือครอสโอเวอร์ในกระบวนการนี้ เครื่องแปลงสื่อนี้ทำงานอย่างรวดเร็วและเป็นประโยชน์ในการขยายเครือข่ายที่มีระยะทางยาว หรือในกรณีที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลในเครือข่าย
ประโยชน์ของ Gigabit Fiber Optic Media Converter
- ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย Ethernet กับเครือข่ายใยแสงได้
- เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลและรับข้อมูลในเครือข่าย
- ลดความซับซ้อนในการตั้งค่าเครือข่ายเมื่อมีเทคโนโลยีแสงกับ Ethernet ใช้งานร่วมกันในระบบเดียวกัน
Fiber Optic Media Converter A และ B เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ระบุย่านความยาวคลื่นของแสงที่ใช้ในการส่งและรับข้อมูลใน Fiber Optic Media Converter ดังนี้:
- Converter A: ใช้ความยาวคลื่นที่ 1310 นาโนเมตรในการส่งข้อมูล (Tx) และ 1550 นาโนเมตรในการรับข้อมูล (Rx)
- Converter B: ใช้ความยาวคลื่นที่ 1550 นาโนเมตรในการส่งข้อมูล (Tx) และ 1310 นาโนเมตรในการรับข้อมูล (Rx)
การใช้งาน
การใช้ Converter A และ B ร่วมกันช่วยให้สามารถสร้างลิงก์แบบ bidirectional (สองทิศทาง) บนเส้นใยไฟเบอร์เดี่ยวได้ โดยที่แต่ละทิศทางจะใช้ความยาวคลื่นที่แตกต่างกันในการส่งข้อมูล นี่เรียกว่า Wavelength Division Multiplexing (WDM) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเส้นใยไฟเบอร์โดยไม่ต้องใช้เส้นใยสองเส้นในการส่งและรับข้อมูลข้อดี
- ประหยัดสายไฟเบอร์: เนื่องจากสามารถส่งและรับข้อมูลได้ในเส้นใยเดียว
- ลดต้นทุน: ลดจำนวนเส้นใยที่ต้องใช้ ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง
- ประสิทธิภาพสูง: สามารถส่งข้อมูลได้ระยะทางไกลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
Fiber Optic Media Converter A และ B จะแตกต่างกันที่ความยาวคลื่นของแสงที่ใช้ในการส่งและรับข้อมูล ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานเส้นใยไฟเบอร์เดี่ยวในระบบเครือข่ายสื่อสาร